ใครๆ ก็ต้องอยากได้ประกันภัยจักรยานยนต์ความคุ้มครองสูงสุดที่ครอบคลุมทุกความต้องการให้กับจักรยานยนต์ของตัวเอง เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความปลอดภัยแต่ยังหมายถึงภาระที่เบาลงหากเกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงการติดต่อขอความช่วยเหลือหรือประสานงานต่างๆ ในการรักษาพยาบาลและซ่อมแซ่มความเสียหายที่จะง่ายขึ้นด้วย หลายคนจึงให้ความสนใจกับการทำประกันจักรยานยนต์ชั้น 1 ให้กับรถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ของตัวเอง ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่าแผนประกันจักรยานยนต์ชั้น 1 นั้นจะคุ้มค่าและเหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่ 

รถจักรยานยนต์มีแผนประกันภัยที่ใกล้เคียงกันกับรถยนต์สี่ล้อทั่วไป โดยประกันจักรยานยนต์ชั้น 1 นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นการคุ้มครองที่ครอบคลุมสูงสุดแทบจะทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินทั้งฝ่ายคู่กรณีและผู้ทำประกันเอง รวมไปถึงการช่วยค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งต่อชีวิต ร่างกายหรือความเสียหายใดๆ ทั้งคู่กรณีและผู้ทำประกัน ที่สำคัญคือความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่มีคู่กรณีหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้อย่างกรณีรถจักรยานยนต์สูญหาย ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 1 ก็ยังให้ความคุ้มครองด้วยเช่นกัน หรือหากมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติทั้งน้ำท่วมและไฟไหม้ ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองด้วย แม้แต่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและจำเป็นต้องประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีทางอาญา ประกันภัยรถจักรยานยนต์ชั้น 1 ก็ยังสามารถเข้ามาช่วยเหลือด้วยเช่นกัน 

ความคุ้มครองของประกันภัยชั้น 1 ยังมีความแตกต่างกันไปในรายละเอียดของแต่ละบริษัท ดังนั้นก่อนการตัดสินใจทำแผนประกันกับบริษัทใดอาจต้องเปรียบเทียบรายละเอียดให้ดี ซึ่งไม่ใช่เพียงขอบเขตความคุ้มครองเท่านั้น สิ่งที่ต้องใส่ใจคือค่าเบี้ยประกันด้วย เพราะแผนประกันจักรยานยนต์ชั้น 1 นั้นเป็นแผนที่ครอบคลุมมากที่สุด วงเงินที่ได้รับและค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายไปก็สูงตามไปด้วย การทำประกันภัยจักรยานยนต์ชั้น 1 จึงต้องตรวจสอบและวางแผนให้แน่ใจว่าสามารถรองรับเงื่อนไขได้ แผนประกันภัยจักรยานยนต์ชั้น 1 จะเหมาะกับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์บ่อยหรือมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่หากว่าพฤติกรรมการใช้รถจักรยานยนต์ของคุณไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุหรือมีความเสี่ยงน้อยแล้ว การทำแผนประกันภัยจักรยานยนต์ชั้น 1 อาจเกินความจำเป็นและไม่คุ้มค่า การเลือกซื้อแผนประกันภัยจึงต้องพิจารณาความเหมาะสมของขอบเขตความคุ้มครองที่ได้รับและเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายไปด้วย จึงจะได้แผนประกันภัยที่คุ้มค่ากับรถจักรยานยนต์ของคุณมากที่สุด